now know... "..หากสมองถูกอัดแน่นไปด้วยข้อมูลจากการอ่านและขยะทางความคิด บางสิ่งบางอย่าง ประสบการณ์ ความทรงจำ ความรู้สึกดีๆ อาจจะละลายสาบสูญไปจากสมอง การเขียนถือเป็นการจัดระเบียบความคิด เก็บกวาดแต่งแต้มจินตนาการที่รกร้างกระจัดกระจายให้เป็นที่เป็นทาง .. คงมีใครสักคนที่อาจได้แง่คิดและมุมมองจากการบอกเล่าเรื่องราว ประสบการณ์ชีวิต ความคิดคำนึง และจินตนาการ ผ่านงานเขียนในแบบฉบับที่ไม่เหมือนใครของคุณก็เป็นได้.."
** คลิกดูคลิป PlayList ชี้แนะเส้นทาง เที่ยวไปกับjazz..... ** 1/17 ถึง 17/17

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ตลาดน้ำอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

ตลาดน้ำอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
By: โอ'ณัฐวุฒิ

"อัมพวา"ขาลง.. น้อยคนจะรู้ว่าตลาดน้ำอัมพวาในช่วงวันธรรมดา บรรยากาศช่างเงียบเชียบวังเวง ไร้เงานักท่องเที่ยว พ่อค้าแม่ค้า เหลือเพียงชาวบ้านอัมพวาเพียงไม่กี่หลังคาเรือนเท่านั้น

"เจ้าของร้านกว่า 80% เป็นคนนอกพื้นที่ทั้งคนกรุงเทพฯ คนราชบุรีนี่เยอะเลย วันจันทร์ถึงพฤหัสเขาก็กลับไปอยู่บ้าน มาเปิดร้านเฉพาะแค่ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ 3 วันเท่านั้น"

ป้าพร วัย 71 เจ้าของร้านขายของชำ ยืนยันว่าการเปิดตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา ส่งผลให้การทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรืองขึ้น

"เมื่อก่อนเงียบมาก ขายได้อย่างเก่งวันละ 1,000 แต่พอมีตลาดน้ำคนมากันเยอะจนหยิบแทบไม่ทัน ช่วงบูมสุดๆสมัยปี 2550 สามวันขายได้เป็นแสน"

ปทุม วียาหาร วัย 63 เพื่อนบ้าน เล่าว่าเมื่อก่อนเธอมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ยากจนถึงขนาดต้องเก็บยอดผักจิ้มน้ำพริกกินแทบทุกมื้อ

"พอตลาดน้ำเปิด ลูกๆก็ยุให้ขายของ พวกน้ำปั่น ไอติมหลอด ขนมจุกจิก รายได้ก็เพิ่มขึ้นมาหน่อย ไม่ถึงกับรวยแต่ก็พออยู่ได้ไม่ลำบากเหมือนเก่า ใครหันมาค้าขายลืมตาอ้าปากกันได้ทั้งนั้น"

ทั้งคู่ยืนยันว่าตลาดน้ำอัมพวากำลังอยู่ในช่วง "ขาลง" เมื่อวัดจากรายได้ที่ตกลงอย่างต่อเนื่อง

"เดี๋ยวนี้คนยังมาเที่ยวเยอะก็จริง แต่กำลังซื้อลดลง เพราะสินค้าเหมือนกันไปหมด ราคาแพงไม่แพ้กรุงเทพฯ นักท่องเที่ยวก็เบื่อ เคยได้ยินเด็กที่เพิ่งมาครั้งแรกพูดว่า "ไม่เห็นจะมีอะไรเลย" อีกอย่างตอนนี้มีตลาดน้ำเปิดใหม่หลายแห่ง เขาเลยแค่มาแวะเดินเที่ยวแป๊บๆแล้วก็ไปต่อที่อื่น"

@ อ่านต่อที่นี่ครับ.. 10ปี"ตลาดน้ำอัมพวา"ถึงเวลาขาลง

สวัสดีครับ ท่านเพื่อนๆของพ่อ ลุง ป้า น้า อา และพี่ๆทุกๆคน

วันนี้วันหยุด ผมเลยมีเวลาว่างนั่งหน้าคอมฯ ก็อยากจะเล่าประสบการณ์ในอดีตเมื่อครั้งแวะไปตลาดน้ำอัมพวาและดอยสุเทพอีกแง่มุมหนึ่งที่ไม่ค่อยจะดีนัก ซึ่งอาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงก็เป็นได้

วันก่อน(ปี2554)ภาควิชาคอมฯจัดกิจกรรมพา นศ.ไปปลูกป่าชายเลนถวายพ่อหลวงที่คลองโคนสมุทรสงคราม ขากลับทางผ่านพอดีหิวเลยแวะตลาดน้ำอัมพวาหาอะไรกินรองท้องก่อนกลับกรุงเทพฯ

มองลงไปในคลองเห็นก๋วยเตี๋ยวเรือปักป้ายราคาขายชามละ 15 บาท ผัดไท 20 บาท เพื่อนๆไปด้วยกันเป็นกลุ่ม 20 กว่าคนลงความเห็นอยากกินสั่งขึ้นมา ดูชามใหญ่แต่ก๋วยเตี๋ยวนิดเดียวเท่ากำมือเด็กๆ เอาช้อนตัก 2-3 ทีก็หมดล่ะ ตอนคิดตังค์กลายเป็นก๋วยเตี๋ยวชามละ 25 บาท ผัดไท 30 บาท

ส่วนเพื่อนอีกคนเห็นปลาหมึกย่างตัวเท่าฝ่ามือสั่งมากิน ตอนคิดตังค์ตัวละ 120 เชียว สมุทรสงครามเป็นเมืองใกล้ทะเล บรรดาอาหารทะเลน่าจะถูกกว่านี้ ถ้าซื้อสดๆ 120 นี่ได้ปลาหมึกเป็นกิโล

ได้ยินว่าก่อนหน้านี้เห็นร้องกันระงม บรรดาตลาดน้ำทั้งหลายไม่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปเยี่ยมคงเป็นเพราะสาเหตุนี้หรือเปล่าไม่ทราบได้ นี่ไม่นับตลาดน้ำที่อื่นๆจะเป็นเหมือนที่อัมพวาหรือเปล่า ท่านเพื่อนๆของพ่อ ลุง ป้า น้า อา และพี่ๆทุกๆคน ถ้ามีประสบการณ์ก็เอามาเล่าสู่กันฟังบ้างครับ

ผมว่าไม่ไหวนะครับ คราวหน้าถ้าบังเอิญทางคณะภาควิชาคอมฯพาไปอีก ผมต้องเตรียมห่อข้าวเหนียวกับหมูอบ(จิ๊นเก็ม)ไปด้วย ส่วนน้ำก็ซื้อยกโหลแช่กระติกไปเลย

ก็อยากให้ทุกๆท่านทำอย่างนี้กันมั่ง

อิอิ...ขี้เหนียว...ขี้เหนียว

ประสบการณ์ผมที่นี่อีกที่ครับ เมื่อปีก่อน(2549)ไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ รถตู้พาคณะเราขึ้นดอยไปก่อน ส่วนผมขอแวะทักทายเพื่อนเก่าที่ตลาดต้นลำไยแล้วจะตามไปทีหลัง

ไปขึ้นรถสองแถวที่คิวหน้า มช. ก่อนออกรถคนขับจะเก็บค่าโดยสาร คนอื่นๆเขาจะคะยั้นคะยอเก็บค่าโดยสารขาลงด้วย โดยให้อยู่เที่ยวบนดอยได้ 1-2 ชั่วโมงแล้วรถของเขาจะอยู่รอ อ้างสารพัดว่าขาลงไม่มีรถลงนะ ผู้โดยสารคนอื่นๆกลัวไม่มีรถลงก็จ่ายค่าโดยสารขาลงไปด้วย

พอมาเก็บเงินผม ผมบอกว่ารถของผมขึ้นไปรอบนดอยแล้ว ขอจ่ายแค่ขาขึ้นอย่างเดียว คนขับแสดงสีหน้าไม่ค่อยพอใจแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรผม ตกลงผมจ่ายค่าโดยสารแค่ขาขึ้นอย่างเดียว

พอขึ้นไปถึงบนดอย โอ้โฮ...รถจอดรอรับผู้โดยสารเป็นแถวยาวเหยียด ผมลองเข้าไปสอบถาม พี่รอผู้โดยสารของพี่เหรอครับ คนขับตอบว่าไงรู้ไหม ไม่ได้รอ คุณจะลงก็ขึ้นๆมาเลย แล้วขอเก็บค่าโดยสารด้วย ผมลองแย้งดู อ้าวก็ผมจ่ายค่าโดยสารขาลงแล้วทำไมต้องจ่ายอีก คนขับว่าใครจะจำหน้าได้ล่ะ ยังไงก็ต้องจ่าย เพราะรถทุกๆคันจะเข้าคิว 15 นาทีออกใครจะอยู่รอได้ตั้งชั่วโมง

ผมว่าถ้าเอารัดเอาเปรียบกันอย่างนี้ อีกหน่อยคงไม่มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยว แล้ววันนั้นก็อย่ามาร้องแรกแหกกระเชอก็แล้วกัน

แถมอีกนิดครับ เรื่อง "คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ" ของที่ระลึกฝากเพื่อนๆ แพ็คเก็ตสวยงามทำให้ไม่อยากเปิดดู ระวังถูกหลอกถูกแหกตา ของที่เราซื้อไม่เหมือนตัวอย่างที่เขาวางโชว์.

โอ'ณัฐวุฒิ ดุษฎีปัญจพร
สิงหาคม 2554

* * * * *